งานราชการ

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แฟรนไชน์กับร้านสารพัดบริการ..วินเซ็นท์

ผู้นำร้านสารพัดบริการครบวงจร รายแรกของไทยเมื่อเอ่ยถึงร้านสะดวกซื้อ คงจะนึกถึงภาพร้านค้าสมัยใหม่ที่เน้นขายสินค้า แต่หากจะนึกถึงร้านที่ขายบริการหลาย ๆ อย่างแบบสะดวกซื้อ คงต้องนึกถึงผู้ปูทางธุรกิจร้านสารพัดบริการรายแรกของไทย กับธุรกิจบริการแนวใหม่ “ ร้านวินเซ็นท์ เซ็นเตอร์ เซอร์วิส” สุดยอดมินิมาร์ทด้านบริการของเมืองไทย ที่รวมบริการหลายอย่างไว้มากที่สุดในขณะนี้บริการครบเครื่อง ตรงใจ
วินเซ็นท์ เซ็นเตอร์ เซอร์วิส แบ่งภาคการให้บริการออกเป็น 9 ประเภทได้แก่
1.บริการงานไปรษณีย์ชุมชน
2.บริการจุดรับชำระเงิน( Pay Counter)
3.บริการจองตั๋วเดินทาง (Travel Booking)
4.ศูนย์ประกันวินาศภัยและบริการด้านรถยนต์
5.ศูนย์ถ่ายเอกสารครบวงจร( Copy Center Service)
6.ศูนย์ถ่ายรูปด่วนดิจิตอล (Digital Photo)
7.ศูนย์เติมหมึกเครื่องพิมพ์
8.เครื่องเติมเงินออนไลน์
9.บริการสินเชื่อ - บัตรเครดิต

บริษัท วินเซ็นท์ เซ็นเตอร์ เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด เริ่มจากการรับวางระบบและเป็นที่ปรึกษาในธุรกิจนี้ จนมีเครือข่ายของร้านที่ผ่านมือการจัดการของบริษัทฯ ไปจำนวนไม่น้อย และได้เรียนรู้ปัญหา สร้างประสบการณ์ให้กับทีมงานของบริษัทฯเป็นอย่างมาก นี่เป็นนโยบายที่ดีมาก เพราะหากบริษัทฯแม่ที่คิดจะขยายงานระบบแฟรนไชส์ไม่เข้มแข็ง โอกาสที่แฟรนไชส์ซี จะล้มเหลวย่อมมีสูง เมื่อวินเซ็นท์ฯ เข้มแข็งมากขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว ก็ได้พัฒนาขึ้นมาสู่ระบบธุรกิจกึ่งแฟรนไชส์ ซึ่งถือเป็นขั้นสุดท้าย ก่อนก้าวเข้าสู่การขยายงานแบบธุรกิจแฟรนไชส์เต็มรูปแบบในปลายปี 2547 คุณจิรภัทร สำเภาจันทร์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า “เรามั่นใจในระบบธุรกิจใหม่ของเราที่มีเครือข่ายกว้างขวาง ระบบการทำงานที่ดี ทีมงานมีประสบการณ์ระดับมืออาชีพ พร้อมจะดูแลเถ้าแก่มือใหม่ได้อย่างมั่นใจ” ภายหลังเมื่อเซ็ตระบบการทำงานตามขั้นตอนลงตัวเป็นมาตรฐาน “วินเซ็นท์ เซ็นเตอร์ เซอร์วิส” ในรูปแบบระบบธุรกิจแฟรนไชส์จึงเกิดขึ้น ซึ่งลูกค้าแฟรนไชซีมั่นใจในพนักงานน้อย ระบบการบริหารจัดการที่ดี กิจกรรมการให้บริการที่หลากหลาย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ควบคุมความเสี่ยง เป็นธุรกิจขายงานบริการที่จำเป็นมีลูกค้าแน่นอน ตลอดจนคู่แข่งทางตรงน้อย ไม่ต้องวางแผนการตลาดที่ซับซ้อน หรือกลัวการตัดราคาซึ่งปัจจุบันกำลังเข้าสู่ปีที่ 5 พร้อมก้าวข้ามสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านสารพัดบริการอย่างมั่นคง ภายใต้แนวความคิดการบริการแบบครบวงจร ด้วยวิธีบริการเบ็ดเสร็จ(One Stop Service) โดยมีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถรองรับความต้องการลูกค้าได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็สามารถครองความไว้วางใจจากผู้ลงทุน เกิดเป็นหลักการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นทั้งแฟรนไชซีและบริษัทเจ้าของสิทธิ์ หรือที่เรียกว่า กลยุทธ์ Win-Win Strategy และอาศัยความโปร่งใสสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน

ธุรกิจใหม่ในร้านบริการ เพิ่มขึ้นตลอดเวลาคุณจิรภัทร เล่าต่อว่า ปัจจุบันวินเซ็นท์ได้ขยายรูปแบบบริการมากขึ้น รองรับกับกระแสเทคโนโลยี ด้วยการจับมือกับเครื่องเติมเงินออนไลน์ e-Pay จำหน่ายบัตรโทรศัพท์ ชั่วโมงอินเตอร์เน็ต และเกมออนไลน์ ทำให้ร้านทันสมัยมากขึ้น ในปัจจุบัน ร้านวินเซ็นท์ฯ ยังมีบริการด้านการทำบัตรเครดิต และสินเชื่อเงินสดให้กับธนาคารและสถาบันการเงินอีก 11 แห่ง ซึ่งร้านแฟรนไชส์ เพียงแค่รวบรวมเอกสารของลูกค้าเพียงเล็กน้อยพร้อมใบสมัครและส่งมายังบริษัทฯแม่ จากนั้นเราจะส่งไปยังสถาบันการเงินเพื่ออนุมัติ จากนั้นเมื่อผลอนุมัติออกมา ทางแฟรนไชส์ซีก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่น ในอัตราที่ไม่น้อยทีเดียว โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับการติดตามทวงถามหนี้แต่ประการใด เราเรียกธุรกิจนี้เก๋ ๆ ว่า “ธุรกิจชวนคนเป็นหนี้”

ทุกวันนี้ต้องบอกว่า ใครที่ลงทุนกับวินเซ็นท์ฯ จะคุ้มค่ามาก ๆ เพราะ
1. บริษัทมีอำนาจการต่อรองกับผู้ค้าและพันธมิตรมากเนื่องจากเรามีการรวมกลุ่มเข้มแข็ง มีจำนวนการขายและสั่งซื้อมาก
2. ช่วยให้แฟรนไชน์ทำเงินมากขึ้น โดยใช้งบเท่าเดิมเพราะเรามีธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มเติมตลอดเวลา ผู้นำใน
การสร้างมาตรฐานใหม่ เสนอจุดต่างอย่างสม่ำเสมอกรรมการผู้จัดการบริษัท วินเซ็นท์ เซ็นเตอร์ เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจน กลายเป็นข้อดีจูงใจผู้สนใจลงทุน ประกอบด้วย
1. ฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ ทางวินเซ็นท์ฯ ได้ลงทุนพัฒนาศูนย์ฝึกอบรม ในรูปแบบห้องปฏิบัติการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ (Lab Computer) เพื่อฝึกอบรมผู้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ใหม่เป็นประจำทุกเดือน

2. การนำระบบซอฟท์แวร์มาช่วยระบบการจัดการภายในร้าน โดยใช้เงินลงทุนและเวลาในการพัฒนาระบบเป็นรายแรก ที่ดำเนินการสร้างระบบจากปัญหาจริง ๆ โดยระบบเน้นการบริการรวดเร็ว ลดความผิดพลาด ได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้า ผ่านโปรแกรม One Stop Service V2.0
3. บริการพิเศษระหว่างดำเนินกิจการ เป็นระบบการให้บริการที่ช่วยให้แฟรนไชส์ซีอุ่นใจได้ ว่าปัญหาที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน จะได้รับคำแนะนำและแก้ไขทันท่วงทีจาก 8 บริการหลังการขายด้วยกัน
ผลตอบแทนการลงทุนที่น่าสนใจ

เมื่อกล่าวถึงอัตราการให้ผลตอบแทนการลงทุนนั้น น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะธุรกิจที่วินเซ็นท์ฯ นำมาใส่ไว้ในร้านสารพัดบริการ เป็นธุรกิจที่มีการทำการอยู่แล้ว พบเห็นได้ทั่วไป แต่ด้วยไอเดียบวกดีกรีวินเซ็นท์ ทำให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจจะไปรอด คุณจิรภัทรกล่าวว่า “ ลองคิดเล่น ๆ ดูนะครับว่า ธุรกิจไปรษณีย์เอกชน เราพบเห็นกันทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าที่ค่าเช่าแพงแสนแพงก็อยู่กันได้ ส่วนจุดรับชำระเงิน เราพบเห็นตามร้านสะดวกซื้อชื่อดังก็โตขึ้นทุกปี ถ้าศูนย์ประกันภัย พรบ. เราเห็นกันเยอะแยะตามอาคารพาณิชย์ อู่ซ่อมรถ ในเรื่องจองตั๋วก็คงเคยเห็นเอเย่นต์ขายตั๋วเครื่องบินบ่อย ถ้าถ่ายรูปด่วน หรือถ่ายเอกสารก็เคยเห็นตามแล็ปสี หรือเห็นทั่วไปตามชุมชน ดังนั้นธุรกิจที่แฟรนไชส์วินเซ็นท์ทำ เป็นธุรกิจที่มีกันอยู่แล้ว แต่แยกกันอยู่แยกกันทำ ก็เห็นว่า ธุรกิจต่าง ๆ อยู่กันได้ดี ถ้ามารวมกันในร้านเดียวรูแบบวินเซ็นท์ฯ ใส่ระบบจัดการดี ๆ ใช้พนักงานน้อยๆ ทำไมจะไม่รวยล่ะ ! ”ลงทุนอย่างมืออาชีพกับเงื่อนไขพิเศษสำหรับรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ “วินเซ็นท์ เซ็นเตอร์ เซอร์วิส” เริ่มต้นงบประมาณการลงทุนทั้งสิ้น 255,000 – 450,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจและการตกแต่ง (รวมอุปกรณ์ทั้งหมด , การวางระบบ,การฝึกอบรม , โปรแกรมซอฟแวร์ ,การตกแต่งป้าย,เคาน์เตอร์ ,ระบบคอมพิวเตอร์,อุปกรณ์สำนักงาน,เครื่องใช้สิ้นเปลือง) ซึ่งไม่มีค่าแฟรนไชส์แรกเข้า และงบประมาณลงทุนสามารถร่วมหารือและกำหนดร่วมกันกับผู้ลงทุนได้ตามสถานที่ที่เหมาะสมขนาดพื้นที่ของร้าน จะเป็นอาคารพาณิชย์ 1 ห้อง หรือบูธในห้างสรรพสินค้า พื้นที่ประมาณ 12 – 50 ตารางเมตร สามารถทำธุรกิจของวินเซ็นท์ฯครบทุกตัว หรืออาจทยอยเริ่มทำธุรกิจตัวหลักก่อนได้ตามความเหมาะสมขณะนี้ วินเซ็นท์ เซ็นเตอร์เซอร์วิส ได้ผ่านร้อนผ่านหนาว สยายปีกทั่วประเทศมีร้านแฟรนไชส์ไปแล้วมากกว่า 80 แห่ง เรียกกว่ามากที่สุดในกลุ่มธุรกิจด้านบริการแขนงนี้ และตั้งเป้าในปี 2549 มีสาขาเพิ่มอีก 85 สาขา รวมเป็นทั้งหมด 150-200 สาขา มีธุรกิจใหม่เพิ่มเติมในร้านตลอดเกือบทุกเดือน มีพนักงานแผนกดูแลลูกค้าร้านแฟรนไชส์ซีโดยตรง และมีแนวโน้มเติบโตเป็นขั้นเป็นตอนอย่างพอเพียง เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและมั่นคงที่สุด อันจะก้าวไปสู่มาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่า...

สนใจสอบถามข้อมูล/ บริษัท วินเซ็นท์ เซ็นเตอร์เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด

www.winsent.com
โทร. 02-3774524 , 02-7329846 , 01-2072196-7 , 09-7407927
E-mail :marketing@winsent.com

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ข่าวสาร..การอบรม นานา อาชีพแก้จน

อบรมอาชีพ ที่สถาบันสอนทำขนมไทยบ้านแม่

ขนมไทยเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนไทยเรา มีทั้งสีสัน รสชาติ ความสวยงาม และการพิถีพิถันในการทำและต้องอาศัยฝีมือและความประณีตในการทำเป็นอย่างมากคนที่มีฝีมือในการทำขนมไทยทุกวันนี้เริ่มหายากขึ้นทุกวัน หากปล่อยไว้ขนมไทยอาจสูญหายไปได้ สถาบันสอนทำขนมไทยบ้านแม่ เป็นสถาบันที่เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมอย่าง ขนมไทยของเรา ต้องการสืบทอดและเผยแพร่ให้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติได้รับรู้จึงได้เปิดเป็นสถานบันสอนเกี่ยวกับการทำขนมไทยขึ้น โดยคุณ คชภูมิ เคนจันทึก เจ้าของสถาบันขนมไทยบ้านแม่ที่ได้รับสูตรขนมไทยจากรุ่นปู่ย่าตายายได้ทดลองนำขนมไทยไปขายยังต่างประเทศและได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก เพราะรสชาติอร่อยไม่หวานจนเกินไป เหมาะแก่งานมงคลและใช้เป็นของฝากได้ดี

หลักสูตรการเรียน
1.ภาคทฤษฏี
เป็นการเรียนรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับขนมไทย

2.ภาคปฏิบัติ
เป็นการลงมือปฏิบัติทำขนม พื้นฐานคือ ขนมชั้น และขนมมงคลทั้ง 9 ได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น เม็ดขนุน จ่ามงกุฏขนมทองเอก ขนมเสน่ห์จันทร์ ขนมถ้วยฟู ใช้เวลาเรียน 2 วัน ค่าเรียนเริ่มต้นที่ 1,500 บาท นอกจากนี้ยังมีการสอนแกะสลัก และสอนทำอาหารทุกชนิดอีกด้วย รับประกันสามารถเปิดร้านได้ทันทีที่จบการเรียน

สนใจติดต่อได้ที่
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขนมไทยบ้านแม่ 88/2654 หมู่ 6 ซอยพระราม2 69แยก 4 ถ.พระรม2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150โทร. 02-892-8891-2,086-662-6177,083-700-1692

ผู้ใดสนใจอยากเปิดร้านขนมไทยลองติดต่อสอบถามกันไปได้เพื่อจะได้มีอาชีพสร้างเงินที่น่าสนใจ และเพื่อช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยไว้ให้ลูกหลานสืบต่อไป


อบรมการทำกาแฟสด กับwattana caffee

หลายๆคนที่สนใจอยากจะเปิดร้านกาแฟสด แต่ยังขาดความรู้ไม่รู้ว่าต้องชงกาแฟแบบไหนถึงจะถูกใจคอกาแฟ รวมทั้งการเลือกสรรเมล็ดกาแฟแบบไหนถึงจะได้กาแฟคุณภาพดีการเปิดร้านกาแฟนั้นเป้นความฝันของหลายๆคนอยากจะมีร้านกาแฟเล็ก มีลูกค้าหมุนเวียนเข้าร้านตลอด ทำรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ แต่การจะเปิดร้านกาแฟนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะให้ร้านกาแฟประสบความสำเร็จเพราะทุกวันนี้ตลาดกาแฟได้ขยายตัวขึ้นอย่างมาก จะเห็นได้จากตามข้างทางหรือสถานที่ต่างๆจะมีร้านกาแฟอยู่มากมาย แน่นอนว่าการแข่งขันต้องสูงมาก ทำยังไงเราจะสามารถเข้าไปแข่งขันกับคนอื่นได้และสามารถประคับประคองร้านของเราให้ไปรอดได้อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าติดใจในรสชาติและบรรยากาศของร้าน แวะเวียนกลับมาดื่มกาแฟจนเป็นลูกค้าประจำของเราได้

วันนี้ อ.รอย แอดดิสัน แห่ง หจก.วัฒนากาแฟ ได้เปิดสถาบันอบรมเถ้าแก่ใหม่ที่สนใจอยากทำธุรกิจร้านกาแฟสด อ.รอย แอดดิสัน ผู้มีประสบการณ์ในวงการกาแฟมามากกว่า 20 ปี โดยให้ความเห็นว่า การทำร้านกาแฟนั้นต้องรู้และเข้าใจในธุรกิจกาแฟว่า ต้องประกอบไปด้วย 3 สิ่ง คือ เมล็ดกาแฟคุณภาพดี เครื่องชงกาแฟดีและคน ยกตัวอย่างกาแฟสดสไตล์อเมริกัน นิยมดื่มกาแฟอาราบิก้า 100 % แต่สไตล์อิตาเลี่ยนจะนิยม กาแฟที่มีส่วนของโรบัสต้า 10-40% การเรียนการสอนจะสอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับกาแฟ โดยจะเปิดอบรมทุกวันอังคารเวลา 11.00-16.00 น.และเสาร์-อาทิตย์13.00-18.00 น.ค่าอบรม 1,500 บาทเท่านั้น รับคอร์สละ 10 คนเท่านั้นเพื่อให้ได้เรียนกันแบบตัวต่อตัว นอกจากนี้ที่watana caffee ยังจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับเปิดร้านกาแฟแบบครบวงจร พร้อมทั้งบริการซ่อม ปรับแต่งหรือให้เช่า เครื่องทำกาแฟคุณภาพดี
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
หจก.วัฒนากาแฟ 7/56 หมู่ 11 รามอินทรา 52/1(ซอยโรงพยาบาลสินแพทย์) แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230 โทร.02-948-5947,081-832-4639,086-500-3204,086-533-2204,แฟ็กซ์ 02-948-5950หรือที่ www.wattanakaffee.com
สนใจอยากเปิดร้านกาแฟสดลองติดต่อเข้าอบรมได้นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ เถ้าแก่ใหม่ทุกท่านประสบความสำเร็จในธุรกิจทุกท่าน


เปิดสอนการทำเครื่องประดับ โดย lohameka studio

โลหะมีค่าสตูดิโอของศิลปะเครื่องประดับ คือ สตูดิโอของผู้ที่สนใจเรียนเกี่ยวกับการออกแบบและการทำเครื่องประดับโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการออกแบบหรือการทำเครื่องประดับก่อนที่จะเข้าร่วมเวิร์คช็อป เวิร์คช็อปนี้จะให้ทักษะที่ดี
และความสนุกของการออกแบบและการทำเครื่องประดับ อย่างไรก็ตามหลังจากจบชั้นเรียน ชิ้นงานเครื่องประดับที่คุณสร้างสรรค์
คุณสามารถนำกลับบ้านได้และคุณจะเห็นว่าคุณสามารถทำเครื่องประดับได้ด้วยตัวของคุณเอง


วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อาชีพทำเงิน..เพาะเห็ดโคนญี่ปุ่น

กระแสการรักษาสุขภาพถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง การออกกำลังกาย อาหารเสริม สมาธิและดนตรีถูกนำมาใช้เพื่อให้เกิดสุขภาวะต่างๆ และอาหารก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจ อาหารที่ได้จากเห็ดชนิดต่างๆ นับว่าเป็นแหล่งโปรตีนจากธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จากคนที่ไม่เคยหรือไม่ชอบทานเห็ด ก็กลับมาบริโภคเห็ดกันเพิ่มขึ้นทุกวัน

เป็นโอกาสสำหรับอาชีพใหม่ๆ ที่มีตลาดเปิดกว้างขึ้น นั่นก็คือ “อาชีพเพาะเห็ด”และ 1 ในเห็ดเพื่อสุขภาพที่ถูกพูดถึงกันอยู่เสมอๆ ก็คงไม่พ้นเห็ดโคนญี่ปุ่น

ปัจจุบัน การเพาะเห็ด นับเป็นอาชีพที่ให้รายได้ดีไม่แพ้อาชีพอื่น ๆ ซึ่งหากมีการสำรวจให้ดีจะพบว่ามีเกษตรกรและผู้สนใจเข้าสู่อาชีพนี้กันเป็นจำนวนมาก นั่นเป็นเพราะตลาดแน่นอน และเป็นสินค้าเกษตรที่ให้คุณค่าทางอาหารและประโยชน์ต่อร่างกาย
อย่างที่ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่เข้าสู่โครงการเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่นโดยยึดเป็นอาชีพหลักเพื่อ
สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ซึ่งนายสังเวย นาคน้อย เจ้าพนักงานการเกษตร 6 สำนักงานเกษตรอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เล่าให้ฟังว่า เดิมทีกรมส่งเสริมการเกษตรได้มีนโยบายให้จัดทำ 1 ตำบล 1ฟาร์ม เพื่อให้เกษตรกรได้เข้ามาศึกษาและเรียนรู้ที่จะนำไปประกอบอาชีพเอง โดยในฟาร์มที่ทำจะมีการทำเกษตรหลายอย่าง เช่น การทำการเกษตรผสมผสาน การเลี้ยงปลา และการเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่นในโรงเรือน นายสังเวย บอกว่า การเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่น แม้เป็นอาชีพที่ใช้ต้นทุนสูงเริ่มแรกเพื่อปลูกโรงเรือนเพาะเห็ดประมาณ 5-6 หมื่นบาท แต่หากพิจารณาโดยรวมและการทำรายได้ระยะยาวแล้ว การลงทุนทำอาชีพนี้นับว่าคุ้มค่ามากและเห็นผลไว ตลาดก็แน่นอน นอกจากนี้เห็ดโคนญี่ปุ่นยังมีคุณสมบัติที่ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี อย่างที่ทำโรงเรือนเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างให้กับเกษตรกรและผู้สนใจในพื้นที่ ปรากฏว่า ผลผลิตเก็บได้ตลอด สัปดาห์หนึ่งจะมีตลาดเข้ามารับผลผลิตไม่ต่ำ 100 กิโลกรัม นับเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ทั้งปี และยังเป็นแหล่งให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้สนใจรายอื่น ๆ ได้นำไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพของตนเองอีกด้วย

การเก็บเห็ดโคนญี่ปุ่นเพื่อขาย สามารถเก็บได้เป็นอาทิตย์ไม่ต้องรีบ โดยนำเห็ดสดใส่ถุงพลาสติกแล้วนำน้ำแข็งโปะนอกถุงเพื่อรักษาความสดของเห็ดได้นาน ราคาเห็ดโคนญี่ปุ่นที่จำหน่ายหน้าโรงเรือนจะขายส่งที่กิโลกรัมละ 150 บาท แต่ถ้าเป็นราคาตลาดเมื่อถึงมือผู้บริโภคจะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 200-250 บาท หาได้ไม่ยาก และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเพราะมีธาตุอาหารมาก นายสังเวย บอกว่า ขณะนี้มีการขยายโรงเรือนเห็ดจากความสนใจของเกษตรกรไปมากแล้วกว่า 10 โรงเรือน และในอนาคตยังจะขยายโรงเรือนเพาะเห็ดออกไปอีก เนื่องจากเป็นอาชีพที่เกษตรกรสามารถทำได้ โดยกู้เงินจาก ธกส. ซึ่งปล่อยสินเชื่อให้ง่าย เพราะเห็นว่าเป็นอาชีพที่เห็นรายได้หมุนเงินผ่อนใช้เร็ว

Tips : เห็ดยานางิหรือเห็ดโคนญี่ปุ่น Pholiota cylindracea เดิมเป็นเห็ดที่เกิดในท่อนไม้ผุตามธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันได้มีการศึกษา และพัฒนาการเพาะเลี้ยงในเมล็ดธัญพืช แล้วเปลี่ยนมาเป็นขี้เลื่อยที่เพิ่มอาหารเสริมในอัตราที่เหมาะสมทำให้กับเห็ดชนิดนี้เจริญได้ดีในเวลาต่อมา เห็ดยานางิ เป็นเห็ดที่มีรสชาติดี โดยมีลักษณะเนื้อดอก ก้านดอก มีความกรอบแน่น เนื้อคล้ายเห็ดโคน กลิ่นหอมนิยมใช้ประกอบอาหารหลายชนิด นอกจากนี้ยังสามารถเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นได้ นานกว่า 1 สัปดาห์ โดยยังมี ความสด รูปร่าง ขนาดน้ำหนัก และสีสรร ไม่เปลี่ยนแปลง การเพาะเลี้ยงสามารถกระทำได้ ง่ายเหมือนการเพาะเห็ดถุงทั่วไป และยังเพาะเลี้ยงได้ตลอดปี จึงมีแนวโน้มว่าจะเป็นเห็ดเศรษฐกิจที่มีอนาคต
สัณฐานวิทยา หมวกเห็ดมีลักษณะค่อนข้างกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 4-10 ซม. ดอกเห็ดที่ออกใหม่ จะมีลักษณะกลม ขนาดเล็ก ตรงกลางหมวกจะนูนสูงขึ้นมา ดอกสีน้ำตาลเข้ม มีเยื่อหุ้มสีขาวอยู่บริเวณใต้หมวก เมื่อดอกเห็ดแก่สีของหมวกจะซีดลงเป็นสีน้ำตาลอ่อน ตรงกลางหมวกที่ เคยนูนจะยุบและแบนราบ ขนาดดอกจะขยายใหญ่ขึ้นจนเยื่อหุ้มส่วนล่างใต้ดอกเห็ดจะฉีกขาด แล้วเปลี่ยนแปลงเป็นวงแหวนสีน้ำตาลเข้มติดอยู่ที่ก้านดอกเห็ด เมื่อดอกเห็ดแก่เต็มที่วงแหวนนี้จะเห็นไม่ชัดเจน สปอร์ ที่ครีบเห็ดมีลักษณะกลมรีเป็นรูปไข่ สีน้ำตาลเข้ม ส่วนของก้านดอกจะกลมและค่อนข้างยาวประมาณ 5-11 ซม. มีสีขาว แต่จะมีเส้นสีน้ำตาลแทรกอยู่ ดอกอาจเกิดเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มก็ได้ การเก็บเกี่ยวจะทำได้ง่าย เนื่องจากส่วนรากยึดติดกับวัสดุเพาะเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและไม่ติดแน่น

สูตรการทำก้อน
สูตรที่ 1

  1. ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 ก.ก.
  2. รำละเอียด 7 ก.ก.
  3. ภูไมท์ซัลเฟต 3 ก.ก.
  4. ดีเกลือ 0.2 ก.ก.
  5. ยิปซัม 1 ก.ก.
  6. ปูนขาว 1 ก.ก.
  7. ความชื้น 65 - 70 %
  8. ความเป็นกรดด่าง 5.5 - 7

สูตรที่ 2 ให้เปลี่ยนจากขี้เลื่อยไม้ยางพารา เป็นฟางข้าวสับ 100 ก.ก. ส่วนรายละเอียดอย่างอื่น เหมือนสูตรที่ 1

สูตรนี้ต้องหมักวัสดุกับส่วนผสมต่างๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันยกเว้นรำละเอียดทิ้งไว้นาน 7 วัน โดยกลับกองฟางหมักทุก 3 วัน จนกระทั้งไม่มีกลิ่นแอมโมเนีย ปรับความชื้น 65-70 % บรรจุวัสดุตามสูตรทั้ง 2 ลงในถุงพลาสติกทนร้อนขนาด 7 x 12 นิ้ว หนักถุงละ 1 กิโลกรัม สำหรับขี้เลื่อย และ 500-800 กรัม สำหรับฟางข้าวสับ ใส่คอขวด จุกสำลีใช้ฝาครอบพลาสติกปิดจุกสำลีกันเปียกน้ำ นำไปนึ่งฆ่าเชื้อด้วยหม้อนึ่งแบบลูกทุ่งใช้เวลา 2-4 ชม.ที่อุณหภูมิ 90-100 ํC ทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นใส่หัวเชื้อเห็ด โดยเทเมล็ดข้าวฟ่างซึ่งมีเส้นใยเห็ดเจริญคลุมอยู่ ลงถุง อาหารผสม ถุงละประมาณ 15-20 เมล็ด ในห้องที่ไม่มีลมโกรก และสะอาด นำไปบ่มไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 25-30 ํC เส้นใยเห็ดจะเจริญเต็มถุงวัสดุเพาะประมาณ 30-45 วัน
การทำให้เกิดดอกเห็ดและเก็บเกี่ยว เมื่อเส้นใยเห็ดเดินเต็มถุง ย้ายก้อนเชื้อไปยังโรงเรือนเปิดดอก ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 25-30 ํC และความชื้นประมาณ 80-90 % การเปิดดอกโดยถอดจุกสำลีออกนำถุงก้อนเชื้อมาวางเรียงไว้บนชั้นเพาะในโรงเรือนที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ในช่วงเช้าและบ่ายจะให้น้ำก้อนเชื้อและบริเวณภายในโรงเรือน วันละประมาณ 2 ครั้ง เพื่อให้มีความชื้นสม่ำเสมอ หลังเปิดดอกประมาณ 5-7 วันจะเกิดดอกเห็ด และสามารถนำไปบริโภคได้

สรุปแนวทางการผลิต
จากแนวทางการผลิตเห็ดยานางิ หรือเห็ดโคนญี่ปุ่น ในจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อเดือน มกราคม 2548 -49 ที่ผ่านมา พบว่าสามารถให้ผลผลิตได้ดี ทั้งในวัสดุเพาะที่มาจากขี้เลื่อย และฟางข้าว แต่วัสดุเพาะที่เป็นปลายฟางข้าวนวดนั้น มีแนวโน้มที่เชื้อเห็ดเดินเต็มก้อนเชื้อได้เร็วกว่า อีกทั้งการเกิดดอกในแต่ละรุ่นที่เร็วกว่าการใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราเป็นวัสดุเพาะ นั่นแสดงให้เห็นว่าฟางข้าวที่มีเหลือใช้ในเขตภาคอีสานจำนวนมากนั้นมีโอกาสในการพัฒนาเป็นวัสดุทดแทนการการใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราที่มีราคาสูงมากในปัจุบัน สำหรับการเพาะเห็ดยานางิ หรือเห็ดโคนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเห็ดที่มีความต้องการของตลาดและมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 150 บาท

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พังงา...ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ ภาค ข.

ระดับ 1
เจ้าหน้าที่พัสดุ
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=64

เจ้าหน้าที่ธุรการ
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=63

เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=65

เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=66

ช่างโยธา ระดับ1
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=67

เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดับ1
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=68

ระดับ 2
เจ้าพนักงานธุรการ
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=69

เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=70

เจ้าพนักงานพัสดุ
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=71

เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=72

เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=73

นายช่างโยธา ระดับ2
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=74

ระดับ 3
บุคลากร
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=75

นักวิชาการการเงินและบัญชี
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=76

นิติกร
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=77

เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ3
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=78

นักวิชาการการศึกษา
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=79

นักพัฒนาชุมชน
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=80

นักวิชาการส่งเสริมสุขภาพ
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=81

วิศวกรโยธา
http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=82

ภาคผนวก ข ข้อปฏิบัติในการเข้าสอบ
รายละเอียด : http://www.phangngalocal.go.th/datacenter/detail.php?news_id=83